Multiverse Benefit

by

in

ดิจิทัลแพลตฟอร์มของแต่ละระบบนิเวศ มีประโยชน์อย่างไร

แพลตฟอร์มมีกลไกอย่างไร ?

  • แก้ไขปัญหา ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ อย่างไร ?
  • ความเชื่อมโยงกับเครือข่ายที่ใช่
  • ศูนย์รวมของผู้เกี่ยวข้องในแวดวงระบบนิเวศนั้นๆ
  • ช่องทางใหม่ เปิดให้ คนอื่นๆ รู้จักเรามากกว่าทาง กูเกิล search หรือโซเชียลอื่นๆ
  • เป็นช่องทางความรู้
  • ช่องทางการตลาดผู้ผลิต ผู้ขาย ผู้รับซื้อ
  • มีร้านค้าเหมือน Lazada Shopee เกษตรนั้นๆ โดยตรง
  • ไม่ใช่แค่เวบไซต์ เป็น SuperApp มีเครื่องมือโซเชียลอื่นๆ ด้วย
  • เปิดเป็นเฟรนไชต์ให้กิจการลักษณะเดียวกัน เข้ามาเช่าใช้ได้
  • เก็บค่าบริการ เพื่อการดูแลระบบ ต่างคนมีผลประโยชน์ มีรายได้ ไม่เอาเปรียบกัน
  • สร้างรายได้ passive
  • สร้างเศรษฐกิจไทย
  • เมื่อไหร่จะเปิดบริการเสียที ให้ใช้ฟรี ๆ ก่อนได้ไหม
  • ต้องการลงทุนต้องทำอย่างไร ?

แก้ไขปัญหา ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ อย่างไร ?

ทุกๆ ระบบนิเวศ ทุกๆ ประเภทกิจการ ย่อมที่จะมีปัญหา ให้ต้องแก้ไข การแก้ไขมีความจำเป็นจะต้องใช้ข้อมูล ต้องใช้การตัดสินใจ โดยความชำนาญความเชี่ยวชาญย่อมเป็นหน้าที่ของผู้เกี่ยวข้องในระบบนิเวศนั้นๆ แต่ข้อมูลจำเป็นจะต้องถูกรวบรวมขึ้นมาจากวิธีการต่างๆ กัน

ระบบดิจิแพลตฟอร์มจะเอื้ออำนวยให้เกิดข้อมูลที่จำเป็นอย่างมากมายมหาศาลและเป็นระบบ การมีระบบที่จะคอบรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นเองเป็นการภายในย่อมจะทำให้คุณมีความได้เปรียบกว่า ข้อมูลจะเป็นประโยชน์ให้สามารถแก้ไขปัญหาต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

ความเชื่อมโยงกับเครือข่ายที่ใช่

เพราะทุกๆ ธุรกิจต้องการเครือข่ายที่ใช่

ศูนย์รวม ของผู้เกี่ยวข้องในแวดวงระบบนิเวศนั้น ๆ

เป็นศูนย์รวม ศูนย์กลาง ของผู้ผลิต ผู้จำหน่าย ผู้บริโภค โดยตรงและโดยอ้อม ให้เกิดการแลกเปลี่ยนปัจจัยการผลิต การใช้ การบริโภค เกิดการซื้อขายสร้างรายได้

การมีแพลตฟอร์มไว้โดยเฉพาะจะทำให้เกิดการสื่อสาร การแลกเปลี่ยนได้ง่าย

และเกิดความสะดวก เรียบง่าย รวดเร็ว ไม่ปะปนกับบุคคลอื่นผู้ไม่เกี่ยวข้อง

การใช้เฟสบุคอาจจะไม่ใช่ช่องทางที่มีประสิทธิภาพอีกต่อไป หรืออาจจะใช้เป็นช่องทางเสริมในการปิดดีลของธุรกิจ

ช่องทางใหม่ เปิดให้ คนอื่นๆ รู้จักเรามากกว่าทาง กูเกิล search หรือโซเชียลอื่นๆ

ปัจจุบัน เรามีช่องทางให้ลูกค้า ผู้อื่น คนที่สนใจเข้าถึงบริการกิจการของเราผ่านทาง Google Search และเฟสบุค หรือ Tik Tok ทั้งแบบฟรีและมีค่าโฆษณา แตกต่างกันไป การโฆษณาด้วยวิธีการเดิม เริ่มมีความยากและมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น หรือต่อไปที่มีเรื่อง AI การหารายได้จากการโฆษณาเริ่มจะไม่ได้ผลอีกต่อไป เราจะสร้างช่องทางใหม่อย่างไร

หมดยุคการดึงดูดใจด้วยเวบไซต์ธรรมดา ลูกค้าต้องการความทันสมัย ความหลากหลาย ความรวดเร็ว และหากเป็นไปได้ คือ ต้องการ SuperApp ที่เดียว ทีเดียว ครบจบกระบวนความ

ช่องทางไหนที่จะเชื่อมต่อผู้คนได้จำนวนมากๆ นับล้านคน

ช่องทางไหนที่จะคุ้มค่าประหยัดค่าใช้จ่าย และสร้างรายได้ต่อเนื่องยาวนาน

ช่องทางไหน ที่จะมีความใหม่สดเสมอ

ช่องทางความรู้

องค์กรธุรกิจจำเป็นต้องแข่งขันกันในการสร้างความรู้ พัฒนาและส่งต่อความรู้ องค์กรจึงจำเป็นต้องมีแพลตฟอร์มสำหรับการบริหารจัดการองค์ความรู้

ความรู้ คือ ความลับทางธุรกิจ การส่งต่อข้อมูลออกไปให้ AI ภายนอกบริโภคและย่อยข้อมูล องค์ความรู้ของคุณ จึงไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง เสียแล้ว

วันนี้คุณจะจัดการกับองค์ความรู้ของคุณอย่างไร

ช่องทางการตลาดผู้ผลิต ผู้ขาย ผู้รับซื้อ

การใช้ช่องทางที่ผิดพลาดคือ ความสิ้นเปลือง หมดสมัยแห่งการยิง Ads พร่ำเพรื่อ และจะดีที่สุดหากค่าการตลาดลดลงเป็นศูนย์

ให้ผู้ซื้อ ผู้ขาย มีปฏิสัมพันธ์โดยตรง ตัดช่องทางคนกลาง ที่เอาเปรียบทั้งขึ้นทั้งล่อง

และยังมีช่องทางเปิดสำหรับลูกค้าใหม่ เพราะดิจิทัลแพลตฟอร์มที่ใช่เป็น Multiverse ที่มีการเชื่อมโยงไ่ม่สิ้นสุดเท่าที่คุณต้องการ ภายใต้งบประมาณที่คุฯรับได้และคุ้มค่าที่สุด

มีร้านค้าเหมือน Lazada Shopee เกษตรนั้นๆ โดยตรง

ในหลายๆ ระบบนิเวศในภาค Operation จริงๆ จะมีผลิตภัณฑ์ หรือบริการสำหรับซื้อขาย เช่น ผลผลิตจากการเกษตร มะพร้าวน้ำหอม หรือส้มโอนครชัยศรี ในทุกๆ ดิจิทัลแพลตฟอร์มของเราจึงได้จัดเตรียม Option สำหรับการเป็นพ่อค้าแม่ขาย ให้สามารถเพิ่มบริการได้ด้วยอัตราค่าบริการที่สุดคุ้ม เพราะวัตถุประสงค์หลักของเราคือ การมุ่งเน้นการสร้างรายได้ให้กับสมาชิก ด้วยต้นทุนการพัฒนาที่ต่ำ ทำให้เราสามารถให้บริการด้วยราคาที่คุณรับได้ เพราะส่วนหนึ่งเรายังต้องมีการเช่าศูนย์ข้อมูล Data Center ไว้คอยให้บริการ

และจากการที่มุกๆ แพลตฟอร์มของเราสามารถที่จะเชื่อมโยงกันได้ด้วย Smart Contract แล้ว ยิ่งจะทำให้ผลิตภัณฑ์และร้านค้าของคุณ เป็นที่รู้จักและเข้าถึงได้โดยสมาชิกทั่วประเทศและทั่วโลก

ไม่ใช่แค่เวบไซต์ เป็น SuperApp มีเครื่องมือโซเชียลอื่นๆ ด้วย

มันจึงไม่ได้เป็นเวบไซต์ ที่คนมักจะแอบอ้างเรียกเวบไซต์เหล่านั้นว่า “แพลตฟอร์ม” ใช่มันจะเรียกว่าแพลตฟอร์มก็ได้นะ ดิจิทัลแพลตฟอร์มของเราจะมีคุณสมบัติของ SuperApp ครบถ้วน เช่น การแชท การแชร์เรื่องราว ความรู้ การ Shopping การเดินทาง การชำระเงิน และมันยังมีมากกว่านั้น คือ การมีคุณสมบัติ ความเป็นที่ปรึกษาส่วนบุคคล ที่ปรึกษาของกิจการ มีกลิ่นอายของ ERP ของแต่ละสาขานั้นๆ มีเครื่องมือในการทำงาน การศึกษา นักวิจัย นักบริหารโครงการ และมันยังสามารถต่อเติมไปเป็นองค์กรอะไรก็ได้ ตามที่ต้องการ แต่มันก็ต้องใช้เวลาในการพัฒนาให้ตรงกับความต้องการ

เปิดเป็นเฟรนไชต์ให้กิจการลักษณะเดียวกัน เข้ามาเช่าใช้ได้

ใช่แล้วครับ เพราะมันจะถูกเปิดให้บริการในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เราต้องการให้นักลงทุนใจดี ในพื้นที่ได้เข้ามาเป็นส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคม โดยเขาผู้นั้นจะต้องร่วมลงขันในการเป็นเจ้าภาพก่อน และต้องร่วมกันทำงาน ออกไอเดีย ทำการตลาด เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ เป็นผู้นำ Super Hero สร้างสมาชิก ทั้งแบบทั่วไป และแบบกิจการ มีร้านค้าเล็กๆ ใหญ่ๆ ก็แล้วแต่

เมื่อต้นแบบที่สำเร็จแล้ว ณ พื้นที่หนึ่ง ก็สามารถที่จะเปิดให้อีกหลายๆ พื้นที่เข้ามาเป็น เฟรนไชต์ได้ โดยมีเงื่อนไขการเข้าใช้บริการ มีการแบ่งสัดส่วนรายได้กันอย่างเหมาะสมและไม่เป็นภาระของใครคนใดคนหนึ่ง เรีกยว่า ต่างคนต่างได้ประโยชน์

สมมุติว่า ผมเป็นเจ้าภาพสร้างแพลตฟอร์มศูนย์บริการรถยนต์ ที่เริ่มจากผมทำอู่เอง แต่ยังไม่มีระบบจัดการอะไรเลย เจอปัญหาหลายอย่าง จนกระทั่งได้ร่วมทำงานกับเรา และพัฒนาออกมาเป็นต้นแบบ ผมก็สามารถเปิดให้อู่อื่นๆ เข้ามาใช้บริการได้ เผบอๆ สามารถทำอะไหล่ร่วมกันได้อีกต่างหาก รวมทั้งกระจายไปทุกๆ จังหวัดทั่วประเทศ

สมมุติว่า ผมคิดค่าบริการอู่ละ 2,000 บาทต่อปี และประเทศนี้มี 10,000 อู่ ผมก็จะมีรายได้ปีละ 20 ล้านบาท หักค่าใช้จ่าย ค่าดูแลต่างๆ แล้ว ผมน่าจะมีเงินเหลือปีละ 2-3 ล้านเป็นเงินเก็บสืบไป

เก็บค่าบริการ เพื่อการดูแลระบบ ต่างคนมีผลประโยชน์ มีรายได้ ไม่เอาเปรียบกัน

อาจจะมีคำถามว่า ทำไมไม่ให้ลองใช้ฟรีไปก่อน คำตอบคือ คนให้บริการ Data Center เราก็ไม่ยอมให้เราใช้ฟรีๆ ปีละหลายๆ ล้านบาท การช่วยเหลือกันตามหลักใครได้ประโยชน์ก็จ่ายก็ดูเป็นธรรมดี ในขณะที่ระบบของเรานั้น มีคุณภาพ และบริการดีแน่นอน ได้ประโยชน์แน่นอน นักลงทุนก็คุ้มค่าไม่หลงทางแน่นอน ระยะยาวแล้วโคตรคุ้ม จนคุณต้องอยากเร่งให้เราทำให้เสร็จเร็วๆ

สร้างรายได้ passive

เพราะระบบนี้คือ SaaS Software as a Service ให้บริการบนระบบ Cloud เราเน้นการสร้างคุณค่าให้ผู้คน และเราได้รับผลตอบแทนกลับเล็กๆ น้อยๆ ทุกคนก็จะมีรายได้ Passive โดยเฉพาะคนที่ตัดสินใจลงทุนเป็นคนแรก ๆ และที่นั่งก็มีจำกัด เราตัดสินใจทำที่ 1000 ระบบนี่ก็ถือว่าไม่มาก ไม่น้อย แต่เราก็น่าจะหมดแรงสร้างมันในรุ่นเรา ขอให้เป็นวินิจฉัยของคนรุ่นต่อๆ ไป

สำหรับผู้ใช้บริการในฐานะ User จะมี passives อย่างไร มีซิครับ เพราะเราจะเปิดโอกาสให้ end user และทุกคนได้ร่วมลงทุนในระบบ Data Center ของเรา ยิ่งใช้ระบบกันมาก Data Center ก็จะยิ่งใหญ่ขึ้น ทุกคนจะมีโอกาสลงทุนได้มากขึ้นตามกำลัง และมี passive income รายได้ต่อเนื่องสืบไป

สร้างเศรษฐกิจไทย

เพราะเศรษฐกิจเรามีขนาดใหญ่ หากจะฉุดไปข้างหน้า จึงต้องการแรงเหวี่ยงที่ใหญ่มากเพียงพอ จึงเป็นที่มาว่าเราจะทำอย่างไร ในสิ่งที่เราทำได้ จึงจะฉุดไปได้ด้วยกัน คำตอบก็คือ การที่จะต้องสร้างดิจิทัลแพลตฟอร์มจำนวนมาก ให้เกิดขึ้นกับทุก ๆ แขนงสาขาเศรษฐกิจ ด้วยหลักการเดียวกัน ทุกคนที่เกี่ยวข้องได้รับผลประโยชน์ สร้างงานสร้างรายได้ ปกป้องข้อมูล ใช้ประโยชน์จากการวิเคราะห์ข้อมูล นำไปแก้ไขปัญหาพัฒนางานในแต่ละด้านนั้น ๆ ดิจิทัลแพลตฟอร์ม 1000 ตัว กระจาย 127 พื้นที่ จะสร้างเศรษฐกิจขึ้นมาในระดับ 400,000 ล้านบาท (จากการวิเคราะห์ตัวแบบ Economic)

เมื่อไหร่จะเปิดบริการเสียที ให้ใช้ฟรี ๆ ก่อนได้ไหม

เรามีหลักการง่ายๆ และชัดเจนว่า ทันทีที่เราเปิดให้บริการคน 1 คน ข้อมูลที่เกิดขึ้นนั้นจะต้องได้รับการจัดการดูแลอย่างดี ไม่สูญหาย และมีความปลอดภัย ไม่นำเอาข้อมูลไปขาย ต้องจัดเก็บและทำสำรองตามนโยบาย และการดูแลรักษาข้อมูลจะมีค่าใช้จ่ายที่สูง ดังนั้นก่อนจะเปิดให้ใช้งานจริงจังนั้น เราจะต้องแน่ใจว่าจำนวนผู้ที่จะเข้ามาใช้งานนั้น มีปริมาณมากพอ คุ้มค่าต่อการดูแลรักษาและ มีผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย หรือหมายถึงเจ้าของผู้ลงทุนในแพลตฟอร์มนั้นๆ รวมทั้งสมาชิกที่ใช้บริการจะต้องช่วยกันจ่ายค่าบริการรายเดือน หรือ รายปี ตามแต่รายละเอียดของแพลตฟอร์มนั้นๆ แต่อย่างไรก็ตาม ณ วันที่กำลังเขียนบทความนี้ ไม่ได้อยู่ห่างไกลจากการเปิดใช้บริการแพลตฟอร์มตัวแรกๆ แน่นอน คาดการณ์ว่าภายใน ต้นปี 2568 จะเปิดให้บริการไม่น้อยกว่า 10 แพลตฟอร์ม


Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *